ความจำเป็นในการขอข้อมูลส่วนบุคคลในการสมัครงาน/ระยะเวลาการจัดเก็บและทำลายเอกสารที่ไม่ผ่านการพิจารณา
ลำดับ ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล วัตถุประสงค์ ความจำเป็นที่ขอทราบ
1 รูปถ่ายปัจจุบัน ไม่เกิน 6 เดือน เพื่อยืนยันตัวตนในปัจจุบันของผู้สมัคร
2 ชื่อ-นามสกุล เพื่อยืนยันตัวตนของผู้สมัคร
3 ชื่อเล่น เพื่อยืนยันตัวตนของผู้สมัคร
4 วัน/ปี/เกิด อายุ เพื่อยืนยันตัวตนของผู้สมัคร
5 เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน เพื่อดูความเป็นประชาชนไทย
6 ที่อยู่ปัจจุบัน เพื่อให้ทราบความสะดวกในการเดินทาง หรือจัดสรรงานให้ทำอย่างเหมาะสม
7 ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน/สำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อรู้ที่อยู่ที่เป็นทางการในการจัดส่งเอกสาร หรือการร่วมกิจกรรมกับครอบครัว
8 หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อติดต่อสื่อสารในการปฏิบัติงาน
9 หมายเลขโทรศัพท์บ้าน เพื่อสำรองในการการติดต่อฉุกเฉิน
10 ประวัติการทำงาน เพื่อใช้พิจารณาประสบการณ์และทักษะของผู้สมัคร ให้เหมาะสมกับตำแหน่งงาน
11 ประกาศนียบัตร เพื่อใช้พิจารณาความรู้ ทักษะเพิ่มเติมที่จะมีประโยชน์ในการปฏิบัติงาน
12 วุฒิการศึกษา เพื่อใช้พิจารณาความรู้/พื้นฐานการศึกษาที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน
13 ประวัติการฝึกอบรม เพื่อใช้พิจารณา ความรู้ ทักษะเพิ่มเติมที่จะมีประโยชน์ในการปฏิบัติงาน
14 ทักษะด้านภาษา เพื่อใช้พิจารณา ความสามารถด้านภาษา และสามารถมอบหมายงานได้อย่างถูกต้อง
15 ผลคะแนน TOEIC เพื่อใช้พิจารณาระดับความสามารถด้านภาษา และมอบหมายงานได้อย่างถูกต้อง
16 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ เพื่อรู้ความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ และมอบหมายงานได้อย่างเหมาะสม
17 ข้อมูลบิดา, มารดา, คู่สมรส, บุตร เพื่อการติดต่อฉุกเฉิน, สวัสดิการพนักงาน, ผู้รับผลประโยชน์หากพนักงานทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต
18 ความสนใจ (งานอดิเรก, กีฬา) เพื่อเป็นข้อมูลการสำหรับกิจกรรมของบริษัท
19 สถานภาพทางทหาร (เฉพาะชาย) เพื่อให้ทราบข้อมูลสถานภาพทางทหารในปัจจุบัน
20 ประวัติเสพยาเสพติด (เฉพาะตำแหน่ง) เพื่อพิจารณารับเข้าทำงานในบางตำแหน่งที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการปฏิบัติงาน
ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลของผู้สมัคร

บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลใบสมัครและข้อมูลของผู้สมัครไว้ประมาณ 6 เดือน หากผู้สมัครไม่ได้รับการพิจารณารับเข้าทำงาน
ภายใน 6 เดือน ทางบริษัทจะทำลายเอกสารทั้งหมดทันที
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  บริษัท นทลิน แมนเนจเมนท์ จำกัด
1. บทนำ

  บริษัท นทลิน จำกัด (“บริษัทฯ”) ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลที่ลูกค้า คู่ค้า ผู้ถือหุ้น พนักงาน และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ (”ท่าน”) ได้มอบให้แก่บริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและจะรักษาข้อมูลที่ได้รับไว้เป็นความลับ ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Policy) ขึ้น ซึ่งนโยบายนี้ได้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทฯ ปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่างๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ มาตรการ และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม รวมถึงกำหนดแนวปฏิบัติให้แก่ท่าน ถือปฏิบัติในการป้องกันการละเมิด กระทบสิทธิ หรือนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ในทางที่มิชอบด้วยกฎหมาย

2. วัตถุประสงค์

  เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ มาตรการ และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม รวมถึงอธิบายวิธีการที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนการแจ้งสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อแสดงความโปร่งใสของบริษัทในการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวให้สอดคล้องกับข้อกำหนดภายใต้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

3. ขอบเขต

  นโยบายฉบับนี้ใช้บังคับกับบุคคลหรือบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับนิติบุคคลใดที่มีนิติสัมพันธ์ ปฏิสัมพันธ์ ติดต่อโดยวิธีการใด หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง เพื่อดำเนินธุรกรรมหรือกิจกรรมใดๆ กับบริษัท โดยจะใช้บังคับกับการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนให้บุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับท่าน

4. คำนิยาม

  “การประมวลผล” หมายถึง การดำเนินการใด ๆ ซึ่งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าด้วยวิธีการใด เช่น การเก็บรวบรวม บันทึก จัดระบบ ทำโครงสร้าง เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง กู้คืน ใช้ เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน ผสมเข้าด้วยกัน ลบ ทำลาย เป็นต้น

   “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

   “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลโดยแท้ของบุคคล แต่มีความละเอียดอ่อนและอาจสุ่มเสี่ยงในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

   “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลที่ข้อมูลส่วนบุคคลสามารถระบุหรือบ่งชี้ไปถึงตัวตนของบุคคลนั้นไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

   “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

   “ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

   “บุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดา

5. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

  5.1 บริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยมี วัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยในการเก็บรวบรวมนั้นจะทำเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย

  5.2 บริษัทฯ จะดำเนินการให้ท่านรับรู้ ให้ความยินยอมตามแบบวิธีการของบริษัทฯ กรณีที่บริษัทฯ จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของเจ้าของข้อมูล บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวจะเข้าข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด

  5.3 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบรายละเอียดดังต่อไปนี้ก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

  • วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม
  • แจ้งให้ทราบถึงกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเข้าทำสัญญา รวมทั้งแจ้งผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะทำการรวบรวม
  • ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมไว้ หรือกำหนดระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม
  • ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมอาจจะถูกเปิดเผย
  • ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

  5.4 ในกรณีที่จะกระทำการใด ๆ แตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ก่อนหรือขณะที่เก็บรวบรวม บริษัทฯ จะต้องแจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้ท่านทราบและได้ต้องรับความยินยอมจากท่านก่อน เว้นแต่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย

  5.5 ไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่รับจากท่านโดยตรง เว้นแต่ข้อมูลที่ได้รับจากบุคคลที่มีความเกี่ยวเนื่อง (เช่น ครอบครัว ผู้แนะนำ) ในฐานะที่เป็นกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทน ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือผู้ติดต่อ ข้อมูลที่ได้รับจากหน่วยงานราชการ ข้อมูลที่ได้รับจากบริษัทประกัน และ/หรือ ได้รับการยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด

6. การประมวลผล

  บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านตามความจำเป็น โดยขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ท่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท บริษัทจะประมวลผลข้อมูลที่ได้จากช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซด์ โทรศัพท์ ช่องทางการสื่อสารออนไลน์ (เช่น อีเมล ไลน์ (Line) เฟซบุ๊ก (Facebook) เป็นต้น ผ่านทางธุรกรรม กิจกรรม นามบัตร สอบถาม เมื่อท่านมีการติดต่อกับบริษัท ตัวแทนบริษัท หรือจากแหล่งอื่นใด ซึ่งข้อมูลที่ท่านให้ไว้ประกอบไปด้วย ข้อมูลภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง และข้อมูลภาพถ่ายดังกล่าวได้แก่ เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด ศาสนา วันที่ออกบัตร วันที่หมดอายุ รูปถ่ายท่านในบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง และข้อมูลเกี่ยวกับหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล อาชีพ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน รูปถ่ายของใบหน้าของท่านที่ถ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นหรืออุปกรณ์บันทึกภาพของบริษัท หรือข้อมูลอื่นใดที่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

7. การใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  7.1 บริษัทฯ ต้องไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแตกต่างจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ก่อนหรือขณะที่เก็บรวบรวม เว้นแต่ได้แจ้งวัตถุประสงค์ใหม่ให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย

  7.2 บริษัทฯ จะไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน และหากเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวต้องได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เว้นแต่จะได้รับยกเว้นตามกฎหมาย

  7.3 กรณีบริษัทฯ มีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทในเครือ หรือบุคคลอื่นทั้งในและต่างประเทศ เช่น ผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่ต้องดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว บริษัทฯ จะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และไม่นำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทฯ ได้กำหนดไว้

  7.4 บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย เช่น การฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย

  หากท่านไม่ยินยอมให้บริษัทเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ขอดังกล่าว บริษัทอาจจะไม่สามารถให้บริการหรือดำเนินการตามคำสั่งของท่านได้

8. ประเภทของบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัท

  8.1 ผู้ติดต่อกับบริษัท

  หมายถึง คู่ค้า ที่ปรึกษา ผู้จัดหาสินค้าและบริการ ผู้ให้บริการภายนอก (Outsource) ผู้มาติดต่อ (Visitor) ตัวแทนของบุคคลหรือนิติบุคคลใดที่มีทำหรือจะทำธุรกรรมกับบริษัท ไม่ว่าในช่วงเวลาใดก็ตาม

ประเภทข้อมูลที่เก็บรวบรวมและประมวลผล

  ข้อมูลส่วนตัว: เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด ศาสนา วันที่ออกบัตร วันที่หมดอายุ รูปถ่ายท่านในบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง

  ข้อมูลเกี่ยวกับหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล อาชีพ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน รูปถ่ายของใบหน้าของท่านที่ถ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นหรืออุปกรณ์บันทึกภาพของบริษัท

  ข้อมูลธุรกรรม: ประวัติธุรกรรมหรือกิจกรรมที่ติดต่อกับบริษัท

  ข้อมูลทรัพย์สิน: ทะเบียนพาหนะ อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านไวไฟ (Wi-Fi) ของบริษัท

  วัตถุประสงค์:

  • เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านในธุรกรรมต่างๆ ตามที่ท่านมีกับบริษัท
  • เพื่อพิสูจน์ ระบุ และยืนยันท่านหรือตัวตนของท่าน เพื่อเป็นขั้นตอนที่นำไปสู่การเข้าทำสัญญา อาจเข้าทำสัญญา หรือการบริหารสัญญาที่บริษัททำกับท่าน เช่น ดำเนินการเรื่องใบจ่ายหนี้และการจ่ายเงิน ประเมินคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานเฉพาะอย่าง
  • เพื่อบันทึกข้อมูลการเข้า-ออกสถานที่ของบริษัทและจัดการเรื่องทางวินัยเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับของบริษัท เพื่อจัดการกิจกรรมที่เกี่ยวกับการทำงานเพื่อติดต่อสื่อสารกับท่านในการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจธุระของบริษัท
  • เพื่อการบริหารจัดการและวางแผนธุรกิจ รวมถึงงานด้านบัญชี การตรวจสอบ ด้านกฎหมายและด้านการกำกับดูแล
  • เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ให้สอดคล้องกับกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ เช่น การยื่นภาษีการหักภาษี ณ ที่จ่าย การนนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายต่อกรมสรรพากร การเก็บรักษาบันทึกข้อมูล การแจ้งข้อมูลต่อหน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น

ฐานทางกฎหมาย

  บริษัทประมวลผลข้อมูลของท่านโดยอาศัยฐานสัญญา ฐานหน้าที่ตามกฎหมายและฐานประโยชน์โดยชอบธรรมกฎหมาย

การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล

  บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลที่สามต่อไปนี้ บริษัทย่อยและให้หมายความรวมถึงพนักงาน ลูกจ้าง กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคลากรของบริษัทย่อยเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามจำเป็น (need-to-know basis) เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยและ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยบุคคลที่สามเหล่านี้อาจอยู่ในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยก็ได้ เช่น ธนาคารผู้ให้บริการแก่บริษัทด้านการชำระเงิน ผู้ให้บริการด้านซอฟแวร์และวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นต้น และ/หรือ หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามที่กฎหมายกำหนด เช่น กรมสรรพากร ผู้สอบบัญชี เป็นต้น

  ในกรณีที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าได้ส่งหรือโอนไปยังประเทศปลายทาง องค์กรระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ในบางกรณีบริษัทฯ อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ระยะเวลาในการจัดเก็บ

  บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นแก่การปฏิบัติตามกฎหมาย การปฏิบัติงานด้าน บัญชี และสำหรับการรายงานผลในเรื่องต่างๆ ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลของท่านจะมีความแตกต่างกันไปตามความจำเป็นและหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท ซึ่งโดยปกติบริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะที่ท่านมีความสัมพันธ์กับบริษัทและเก็บต่อเนื่องไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

  8.2 ผู้เยี่มชมเว็บไซต์

  เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท [●] ระบบของบริษัทจะเก็บข้อมูล ของท่านเท่าที่จำเป็นและที่อาจใช้ยืนยันตัวตนของท่านทางอ้อมได้โดยอัตโนมัติ เช่น ไอพีแอดเดรส (IP address) วันและเวลาที่ท่านเข้าใช้งานหน้าเวบไซต์ ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์จากอุปกรณ์ของท่าน วิธีการที่ท่านใช้เว็บไซต์ของบริษัท เว็บไซต์ที่นำระบบของท่านมายังอินเทอร์เน็ตเว็บไซต์ของบริษัท เว็บไซต์ที่ระบบของท่านคลิกต่อจากอินเทอร์เน็ตเว็บไซต์ของบริษัท ข้อมูลดังกล่าวจะถูกจัดเก็บไว้ในล็อกไฟล์ (logfiles) ในระบบของบริษัทและการเก็บข้อมูลในล็อกไฟล์เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัท เพื่อให้สามารถส่งเว็บไซต์ไปถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านได้ นอกจากนี้ บริษัทมีความจำเป็นที่ต้องเก็บอัตลักษณ์ออนไลน์อื่นๆ ที่สามารถทำให้ระบุตัวตนในทาง ออนไลน์ได้ของท่าน เช่น ตัวระบุคุกกี้ (Cookie ID) เพื่อพัฒนาเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามลักษณะการใช้งานของท่าน ทั้งนี้ การกรอกข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (เช่น ชื่อและนามสกุล อีเมลแอดเดรส เบอร์โทรศัพท์ ตำแหน่งงาน ตำแหน่งที่อยู่ และอาชีพของท่าน) ในแบบฟอร์มใดๆ บนเว็บไซต์ของบริษัท หน้าเว็บไซต์ต่างๆ ของบริษัทอาจมีลิงก์เชื่อมไปยังหน้าเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม เมื่อท่านใช้ลิงก์ดังกล่าว ท่านจะ ออกจากเว็บไซต์ของบริษัทและบริษัทไม่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่กระทำโดยหน้าเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ดังนั้น ท่านควรอ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของแต่เว็บไซต์ที่ท่านเข้าเยี่ยมชม

วัตถุประสงค์

  ใช้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะในกรณีที่การประมวลผลนั้นจำเป็นแก่การคงสภาพของเว็บไซต์ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ดำรงความสมบูรณ์และความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท และเพื่อปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหน ซึ่งบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านแล้ว เว้นแต่ กรณีที่บริษัทได้รับอนุญาตให้ประมวลผลได้ตามกฎหมาย หรือ บริษัทจะต้องดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามที่กฎหมายกำหนด

ฐานทางกฎหมาย

  บริษัทประมวลผลข้อมูลของท่านโดยอาศัยฐานหน้าที่ตามกฎหมายและฐานประโยชน์โดยชอบธรรมกฎหมาย

การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล

  บริษัทอาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลภายนอกและที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท เช่น ผู้ให้บริการ Web Hosting, ผู้ให้บริการด้านซอฟแวร์และวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น และ/หรือ หน่วยงานรัฐทีมีหน้าที่กำกับดูแลตามที่กฎหมายกำหนด และ/หรือ ตามคำสั่งศาล

ระยะเวลาในการจัดเก็บ

  บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลานานเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลของบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในล็อกไฟล์รวมถึง Cookie ID จะถูกเก็บไว้อย่างน้อย 90 วันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท เว้นแต่บริษัทจะได้รับคำสั่งจากพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เก็บต่อไปแต่ทั้งนี้ไม่เกินกว่าระยะเวลา 2 ปี

  8.3 ผู้สมัครงาน

  หากท่านต้องการสมัครงานกับบริษัท ท่านต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัทเพื่อใช้ในกระบวนการสรรหาพนักงาน นอกจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว บริษัทยังต้องการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลในครอบครัวของท่าน เช่น คู่สมรส พี่น้อง บิดาและมารดาของท่าน หรือ บุคคลอื่นๆ เช่น บุคคลที่ติดต่อได้ในกรณีเร่งด่วน บุคคลที่ไม่ใช่ญาติและเพื่อนซึ่งทราบประวัติ ความประพฤติของท่านและสามารถให้การรับรองกับบริษัทได้ และบุคคลในบริษัทที่ท่านรู้จัก (หากมี) (“บุคคลที่เกี่ยวข้องของท่าน”) อย่างไรก็ตาม บริษัทถือว่าท่านได้รับอนุญาตในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องของท่านจากบุคคลเหล่านั้นล่วงหน้าแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทต้องการเพื่อใช้ประมวลผลจะถูกระบุไว้ในแบบฟอร์มใบสมัครงานของบริษัท ดังนี้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เกี่ยวกับการยืนยันตัวตน: คำนำหน้าชื่อ ชื่อและนามสกุล เพศ ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน อาชีพ รูปถ่าย วันเดือนปีเกิด สัญชาติ อายุ จังหวัดหรือสถานที่เกิด ศาสนา ข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลหนังสือเดินทาง เลขที่บัตรประจำตัวผู้เสียภาษี เลขที่บัตรประกันสังคม สถานะทางการทหาร ข้อมูลการสมรส ข้อมูลพี่น้อง
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสำหรับการติดต่อ: ที่อยู่ปัจจุบัน เบอร์โทรศัพท์ อีเมลแอดเดรส
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เกี่ยวกับคุณสมบัติ: ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงานพร้อมข้อมูลเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ ประวัติการฝึกอบรม สัมมนา ฝึกงาน ทักษะและความสามารถต่างๆ ข้อมูล การได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้มีวิชาชีพหรือถือใบอนุญาตต่างๆ ข้อมูลความเป็นอิสระ ข้อมูลการถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ข้อมูลเกี่ยวกับคดีความในศาลที่ท่านถูกฟ้องร้องหรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดี ผลการทดสอบเพื่อประเมินสำหรับกระบวนการรับสมัครงาน ค่าตอบของท่านในแบบทดสอบบุคลิกภาพในการทำงานและการตอบคำถามในการสัมภาษณ์ และ หากท่านเป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมงานกับบริษัท บริษัทจะประมวลผลข้อมูลสุขภาพของท่านด้วย
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องของท่าน: คำนำหน้าชื่อ ชื่อและนามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมลแอดเดรส อาชีพ สถานที่ทำงาน การให้ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของท่านเป็นไปตามความสมัครใจของท่านเอง เพื่อให้บริษัทพิจารณาประกอบการ สมัครงานของท่าน หากท่านส่งประวัติส่วนตัว (CV, Resume) มายังบริษัท ในประวัติส่วนตัวของท่านอาจมีการให้ข้อมูลส่วนบเพื่อเป็นบุคคลอ้างอิง การให้ข้อมูลส่วนบุคคลอ้างอิง บริษัทถือว่าท่านได้รับอนุญาตจากบุคคลอ้างอิงนั้นแล้ว และบริษัทสามารถจัดการข้อมูลส่วนบุคคลส่วนนั้นได้ตามที่ระบุไว้ในเอกสาร ทั้งนี้ บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะที่สามารถเข้าถึงได้ เช่น เว็บไซต์สมัครงาน เป็นต้น หรือ ตัวแทนจัดหางานที่บริษัทอาจมีการประกาศรับสมัครงานผ่านทางตัวแทน บริษัทจะถือว่าท่านได้ให้ความยินยอมให้กับบุคคลดังกล่าวในการเปิดเผยข้อมูลให้แก่บริษัท หากท่านสมัครงานกับบริษัทโดยผ่านตัวแทนดังกล่าว กรุณาตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวหรือประกาศว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของตัวแทนนั้น เพื่อทราบรายละเอียดว่าตัวแทนนั้นๆ มีวิธีในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

วัตถุประสงค์

  เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของท่านและประเมินความเหมาะสมสำหรับตำแหน่งงานที่ท่านสมัคร รวมถึงตำแหน่งงานว่างอื่นๆ ในอนาคต เตรียมการสัมภาษณ์และการประเมินผล หรือติดต่อสื่อสารกับท่านเกี่ยวกับขั้นตอนการรับสมัครงานและแจ้งผลการประเมินและสัมภาษณ์ รวมถึงดำเนินการตรวจสอบประวัติและข้อมูลอ้างอิงของท่าน รวมถึงสิทธิทางกฎหมายในการปฏิบัติงาน คุณสมบัติ ทางวิชาชีพ และเพื่อรับทราบความคิดเห็นเกี่ยวกับความสามารถในการทำงานของท่านและคุณสมบัติส่วนตัวจากบุคคลอ้างอิงที่ท่านให้ไว้กับบริษัท เพื่อป้องกันการทุจริตและอาชญากรรม หากบริษัทสนใจรับท่านเข้าร่วมงาน บริษัทจะใช้ข้อมูลของท่านเพื่อยื่นข้อเสนอการจ้างและจัดทำสัญญาจ้าง

ฐานทางกฎหมาย

  บริษัทประมวลผลข้อมูลของท่านโดยอาศัยฐานหน้าที่ตามกฎหมาย ฐานสัญญาและฐานประโยชน์โดยชอบธรรมกฎหมาย

การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล

  บริษัทอาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่าบริษัทกำลังปฏิบัติตามข้อผูกพัน ทางกฎหมาย เช่น การตรวจสอบสอบข้อตกลงที่ยังมีผลบังคับระหว่างท่านกับบุคคลอื่นในเรื่องการจำกัดการทำงานของท่านภายหลังสัญญาจ้างสิ้นสุดลง ตรวจสอบประวัติการศึกษาและประสบการณ์การทำงานในบางตำแหน่งงาน และ/หรือตรวจสอบสิทธิการทำงานในประเทศไทย

ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูล

  บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดกระบวนการสรรหาพนักงานและการจ้างงาน หากท่านเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกและตอบรับข้อเสนอการจ้างงานของบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกบันทึกในฐานข้อมูลพนักงานของบริษัท แต่หากท่านไม่ได้รับการคัดเลือกหรือตอบรับข้อเสนอการจ้างงานของบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บไว้เป็นระยะเวลา[●] นับจากวันที่บริษัทได้รับข้อมูลดังกล่าว

  8.4 พนักงานและอดีตพนักงาน

  ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราใช้ประมวลผล ได้แก่

  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งหมดที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ระหว่างกระบวนการสรรหาพนักงาน (ผู้สมัครงาน)
  • ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้หรืออาจเก็บรวบรวมในระหว่างการจ้างงาน ตัวอย่างเช่น ข้อมูลสำหรับการบริหารจัดการ: ประวัติเงินเดือนและข้อมูลเงินเดือน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ อื่นๆ ที่ท่านมีสิทธิได้รับ การเข้างานและการปฏิบัติงาน เช่น วันเริ่มงาน ผลการปฏิบัติงาน แผนการพัฒนาส่วนบุคคล บันทึกการฝึกอบรม ผลการทดสอบแบบ ประเมินสำหรับการฝึกอบรมหรือหลักสูตรการพัฒนาต่างๆ ข้อมูลบันทึกของฝ่ายทรัพยากรบุคคล เช่น การลา ความเจ็บป่วย ข้อร้องเรียน หนังสือเตือน ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ บันทึกการ มีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท หรือสิทธิประโยชน์อื่นใด ค่าตอบในแบบสอบถามต่างๆ เสียงและภาพที่ถูกบันทึกหรือถ่ายทอดเมื่อท่านเข้าร่วมการประชุมหรอกิจกรรมต่างๆ ที่จัดโดยบริษัท หรือเมื่อท่านเข้าร่วมในนามบริษัทตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทกำหนดในแต่ละครั้ง รายละเอียดบัญชีธนาคาร รายละเอียดการประกันภัย ข้อมูลผู้รับประโยชน์ที่ท่านกำหนดในกรณีเสียชีวิต หรือสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ให้แก่บุคคลที่สาม ข้อมูลการจ่ายเงินสมทบในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ข้อมูลภาษี และข้อมูลค่าใช้จ่ายสำหรับการหักลดหย่อนเพื่อคำนวณภาษี ข้อมูลอุปกรณ์ส่วนบุคคลที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fiของบริษัท ข้อมูลอุปกรณ์ส่วนบุคคลของท่านที่ลงทะเบียนสำหรับการเข้าถึงข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท ไอพีแอดเดรส วันและเวลา ชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน (Computer Name) ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ ตัวระบุคุกกี้ (Cookie ID) และบันทึกการเข้าถึงระบบเทคโนโยลีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ตของบริษัท

วัตถุประสงค์

  เพื่อการจ่ายเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ การให้ผลตอบแทนและสวัสดิการ และเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในฐานะนายจ้าง เพื่อดำเนินการในเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล การจัดหาและดำเนินหลักสูตรต่างๆ ในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ให้การสนับสนุนในงานที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการและอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้องสำหรับสุขภาพและความปลอดภัยของท่าน รวมถึงการปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับความเป็นพนักงานหรือการสิ้นสภาพความเป็นพนักงานของท่าน เพื่อปฏิบัติตามสัญญาจ้างงาน สวัสดิการ หรือเงินสินไหมทดแทนอื่นๆ และเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการอ้างอิงสำหรับการตรวจสอบย้อนกลับของบริษัทต่างๆ

ฐานกฎหมาย

  บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งพนักงานและอดีตพนักงานโดยอาศัยฐานทางกฎหมาย ในการปฏิบัติตามสัญญา เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทและการปฏิบัติตามกฎหมาย

การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล

  บริษัทอาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลภายนอกและได้ทำสัญญากับบริษัท เช่น ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ผู้ให้บริการเกี่ยวกับหลักสูตรและแผนงานในการบริหารงานและพัฒนาทรัพยากร ธนาคาร โรงพยาบาล บริษัทประกันภัย ผู้ให้บริการด้านซอฟแวร์และวางระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น แล หน่วยงานราชการตามที่กฎหมายหรือประกาศระเบียบต่างๆ กำหนด เช่น กระทรวงแรงงาน สำนักงาน ประกันสังคม กรมสรรพากร เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่รัฐแจ้งให้ดำเนินการภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือตามคำสั่งศาล หรือตามที่กฎหมายกำหนด

ระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูล

  บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตลอดระยะเวลาการจ้างงานและต่อเนื่องไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

  8.5 ผู้ถือหุ้น

  ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทใช้ประมวลผล ได้แก่ คำนำหน้าชื่อ ชื่อและนามสกุล เลขที่บัตรประจำตัวประชาชนหรือเลขที่หนังสือเดินทาง สัญชาติ อาชีพ เสียง และ/หรือ ภาพ (เมื่อท่านเข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้น เสียงและภาพของท่านอาจถูกจัดเก็บและบันทึกในระบบการถ่ายทอดการประชุมผู้ถือหุ้น ทั้งในห้องประชุมและบริเวณใกล้เคียง) รายละเอียดข้อมูลที่ติดต่อ (ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล) ข้อมูลที่เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของผู้ถือหุ้นและเกี่ยวกับการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้น เช่น เลขที่เช็คเงินปันผล เลขที่บัญชีธนาคารผู้รับเงิน ข้อมูลสำหรับการใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนในการประชุมผู้ถือหุ้น เอกสารประกอบการมอบฉันทะและรับมอบฉันทะ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการถือหุ้น

วัตถุประสงค์

  เพื่อติดต่อสื่อสารกับผู้ถือหุ้น การแจ้งเรื่องจัดการประชุมผู้ถือหุ้น การจัดส่งเอกสาร การจ่ายเงินปันผลหรือสิทธิประโยชน์อื่นแก่ผู้ถือหุ้น ตรวจสอบการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นหรือการใช้สิทธิในนามตัวแทนผู้ถือหุ้น เช่น การใช้สิทธิเข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนนในการประชุมผู้ถือหุ้น การทำธุรกรรมต่างๆ เกี่ยวกับหุ้น เป็นต้น การปฏิบัติตามข้อบังคับของบริษัทหรือกฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่มีผลใช้บังคับ

ฐานกฎหมาย

  บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานหน้าที่ตามกฎหมายและฐานประโยชน์โดยชอบธรรม

การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล

  บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ หน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแล เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ/หรือเปิดเผยผู้ติดต่อกับบริษัท เช่น คู่ค้าที่ทำสัญญากับบริษัท เป็นต้น หรือบุคคลภายนอกที่มีนิติสัมพันธ์กับบริษัท ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในกิจกรรมการประชุมผู้ถือหุ้น เช่น ที่ปรึกษาด้านวิชาชีพ ผู้ที่ทำหน้าที่ดำเนินกิจกรรมในนามของบริษัท

  9. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

  ในกรณีที่บริษัทจะส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบให้มั่นใจว่าประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่จะได้รับยกเว้นตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย การปฏิบัติตามสัญญาเพื่อประโยชน์ของท่าน

  10. แนวทางในการดำเนินการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  บริษัทจะกำหนดมาตรการต่าง ๆ รวมถึงมาตรการด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ผู้บริหาร พนักงาน หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ โดยบริษัทจะส่งเสริมให้บุคคลดังกล่าวมีความรู้และตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามนโยบายหรือระเบียบปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่บริษัทกำหนดไว้ เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามนโยบายและกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

  11. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

  ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้

  • ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่จำต้องขอความยินยอมจากท่าน เท่าที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาตให้กระทำได้
  • ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านที่อยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
  • ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามเงื่อนไขที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
  • ท่านอาจขอให้บริษัทฯ ลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีดังต่อไปนี้
    • เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    • เมื่อท่านถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอีกต่อไป
    • เมื่อท่านได้คัดค้านการประมวลผล
    • เมื่อมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
  • ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีดังต่อไปนี้
    • บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้อง ความเป็นปัจจุบัน ความสมบูรณ์ หรือการก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ของข้อมูลส่วนบุคค ตามที่ท่านร้องขอ
    • เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลายเนื่องจากมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ท่านประสงค์ให้ระงับการใช้แทน
    • บริษัทฯ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไป แต่ท่านมีความจำเป็นและขอให้บริษัทฯ เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง การปฎิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
    • บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการพิสูจน์การแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่าในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง การปฎิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรืออยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ ทั้งนี้ เพื่อปฏิเสธการคัดค้านของท่าน
  • ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบริษัทฯ โปรดติดต่อบริษัท ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อ [●]

  การร้องขอใด ๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

  ทั้งนี้ อาจเกิดข้อจำกัดในการขอใช้สิทธิของท่านบางประการ โดยบริษัทจะทำการชี้แจงให้ท่านทราบหากไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านได้ โดยข้อจำกัดดังกล่าวเป็นไปตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด

  การใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้น บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าบริการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการเข้าดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ

  12. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

  • บริษัทฯ จะจัดให้มีการกำหนดนโยบาย คู่มือ และมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยอย่างเพียงพอและเหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิได้รับอนุญาตหรือโดยมิชอบ
  • บริษัทฯ มีการปรับปรุงและทบทวนนโยบาย คู่มือ หรือมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะๆ ตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่ความเหมาะสมและเท่าทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
  • ในกรณีที่ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลหรือนิติบุคคลอื่น บริษัทฯ และ/หรือบริษัทในเครือ ต้องดำเนินการป้องกัน มิให้ผู้นั้นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ

  13. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล

  บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้โดยมีระยะเวลาเท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลดังกล่าวมา ทั้งนี้ เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทอาจต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานขึ้นหากกฎหมายกำหนด เว้นแต่ มีความจำเป็นในแต่ละเรื่องตามนโยบายของบริษัทและแจ้งให้ท่านรับทราบและยินยอม และจะมีการลบหรือทำลาย เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาตามที่กำหนด

  14. การติดต่อ

  หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติและกิจกรรมของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ตามรายละเอียดด้านล่าง โดยบริษัทยินดีที่จะช่วยเหลือท่านในการให้ข้อมูล ข้อเสนอแนะ และข้อร้องเรียน โปรดติดต่อบริษัท

  • ชื่อบริษัท
    • [ชื่อ]
    • [ที่อยู่]
    • [รายละเอียดติดต่อ เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์]
  • เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    • [ชื่อตำแหน่ง]
    • [ที่อยู่]
    • [รายละเอียดติดต่อ เช่น อีเมล หมายเลขโทรศัพท์]

  15. การทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  บริษัทอาจทำการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมาย การเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ โดยบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจน ก่อนจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

  ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ [●] เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง